ข้อมูลบริการวิเคราะห์ทดสอบปริมาณ สารไมทราไจนีน(Mitragynine) ด้วยเทคนิค HPLC
บริษัท วิสไบโอ (VISBIO) จำกัด มีบริการรับตรวจสอบและวิเคราะห์ปริมาณ องค์ประกอบทางชีวภาพ (Biomarker) ของ สาร ไมทราไจนีน ได้กับทุกผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม, อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โดยกระท่อม ได้รับการปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติด ถือเป็นพืชเศรษฐกิจน่าสนใจ ด้วยคุณสมบัติและฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ที่ให้ประสิทธิภาพในด้านของการลดอาการปวดที่รุนแรงต่างๆ ของร่างกาย นอกจากนี้กระท่อมยังสามารถลดน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นสารในกลุ่มอัลคาลอยด์ และมีการศึกษาวิจัยเบื้องต้นว่าพืชกระท่อมยังสามารถใช้ทดแทนยามอร์ฟีนที่ได้รับปวดได้ ดังนั้นการตรวจวิเคราะห์เพื่อจำแนกชนิดและควบคุมคุณภาพของสารไมทราไจนีน ในกระท่อม จึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเทคนิค HPLC ก็เป็นเทคนิคหนึ่งที่นิยมใช้ในการตรวจวิเคราะห์กันอย่างแพร่หลาย
กระท่อม
พืชกระท่อม (Kratom) หรือ Mitragyna speciosa (Korth.) HaviL. คือ พรรณไม้ยืนต้นชนิดหนึ่งในวงศ์ Rubiaceae ถูกนำมาใช้เป็นยาสามัญประจำบ้านมานานหลายร้อยปีแล้วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดเป็นไม้ต้นขนาดกลาง สูงได้ถึง 15 ม. ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่ ปลายแหลม โคนป้าน หูใบระหว่างก้านใบเป็นแผ่นคล้ายใบ ช่อดอกแบบช่อกระจุกแน่น ออกตามปลายกิ่ง มี 1-3 ช่อ ช่อกลางสั้นมาก
แต่ละช่อประกอบด้วยดอกสีเหลือง กลีบเลี้ยงเป็นหลอดสั้น ปลายมี 5 แฉก กลีบดอกเป็นหลอดยาว ปลายแยกเป็น 5 หยัก เกสรเพศผู้ 5 อัน รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ ผลเล็ก มีสันตามยาว 10 สัน เมล็ดมีปีก ในประเทศไทยมีหลายพันธุ์ แต่ละพันธุ์แตกต่างกันที่ลักษณะของใบ กล่าวคือ พันธุ์ก้านแดงมีก้านและเส้นใบสีแดง พันธุ์แตงกวามีเส้นใบสีเขียวอ่อนกว่าแผ่นใบ พันธุ์ยักษ์ใหญ่มีใบขนาดใหญ่กว่าพันธุ์อื่นและส่วนบนของขอบใบเป็นหยัก พันธุ์ที่นิยมบริโภคกันมากคือ พันธุ์ก้านแดง
ชนิดของกระท่อม
กระท่อมมีหลากหลายสายพันธุ์ที่แตกแต่งกันด้วยลักษณะอย่างความหนา สีของก้านและเส้นของใบรวมถึงดอกไม้ ในประเทศไทยจะมีสี่สายพันธุ์ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ พันธ์เหรียญทอง แตงกวา ก้านแดง และแมงดา(ใบหยัก/หางกั้ง) นอกจากนี้แต่ละชนิดจะต่างกันอีกในด้านความแรงของฤทธิ์ รสชาติ และกลิ่น บางสายพันธุ์ เช่น สายพันธ์เหรียญทองและแตงกวาจะช่วยให้ผ่อนคลายและเต็มไปด้วยฤทธิ์ที่ทำให้อาการเมาไม่แรงมาก ในขณะที่สายพันธุ์อื่นๆ อย่างก้านแดงและแมงดามีรสชติที่ขมมากและมีการกระตุ้นที่สูงกว่า
แหล่งที่พบกระท่อมในไทยบางจังหวัดของภาคกลาง เช่น ปทุมธานี แต่จะพบมากในป่าธรรมชาติบริเวณภาคใต้ เช่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส
สารสำคัญและโครงสร้างทางเคมีของกระท่อม
ใบกระท่อมมีสารสำคัญหลัก คือ ไมทราไจนีน เป็นสารกลุ่มแอลคาลอยด์ (alkaloids) ที่พบมากที่สุดในกระท่อม กลไกการออกฤทธิ์ของ ไมทราไจนีน และอนุพันธ์ (เช่น 7-hydroxymitragynine) เกิดจากการ จับกับตัวรับโอปิออยด์ (opioid receptors) ออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง (CNS depressant) เช่นเดียวกับยาเสพติดกลุ่มเดียวกัน เช่น psilocybin LSD
ชนิดและปริมาณแอลคาลอยด์ที่พบแตกต่างกัน ขึ้นกับแหล่งปลูก และเวลาที่เก็บเกี่ยว ซึ่งแบ่งตามโครงสร้างของสารประกอบ 3 ประเภท คือ
- อินโดลแอลคาลอยด์ (Indole Alkaloids)
- ออกอินโดลแอลคาลอยด์ (Oxindole Alkaloids)
- ฟลาวานอยด์ (Elavanoids)
ในตำรายาไทย ใบกระท่อมมีสรรพคุณใช้ระงับอาการปวดท้อง แก้บิด แก้ท้องเสีย ระงับอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย เป็นต้น ปัจจุบันพืชกระท่อมยังมีการใช้แบบดั้งเดิมในชุมชนภาคใต้ของประเทศไทย โดยการเคี้ยวใบกระท่อมสด หรือนำไปแปรรูป เช่น ต้มน้ำดื่ม ตากแห้ง หรือบดเป็นผงเพื่อชงดื่ม สามารถทำงานกลางแจ้งได้นานขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากในใบกระท่อมมีสารสำคัญหลักคือ ไมทราไจนีน ซึ่งออกฤทธิ์โดยการจับกับตัวรับโอปิออยด์ ดังนั้นกระท่อมจึงมีฤทธิ์แก้ปวด รวมถึงฤทธิ์อื่นๆ ที่คล้ายโอปิออยด์ เช่น ฤทธิ์ที่ทำให้รู้สึกเคลิ้ม ด้วยฤทธิ์ดังกล่าว จึงเกิดปัญหาการนำพืชกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิด โดยนำน้ำต้มใบกระท่อมไปผสมกับยาแผนปัจจุบัน น้ำอัดลม เครื่องดื่มบำรุงกำลัง หรือสารอื่นเพื่อให้เกิดความมึนเมา คึกคะนอง
ยกเลิกเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5
กฎหมายพืชกระท่อมผ่านสภา ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 แต่ยังไม่สามารถปลูกเสรีได้ จนกว่าจะมี ราชกิจจานุเบกษา ซึ่งประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 พ.ค. 2564 และจะมีผลใน 90 วันนับจากประกาศ หรือ มีผลตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป
และในวันที่ 26 พ.ค. ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่ 8 พ.ศ.2564 ใจความสำคัญ คือ โดยที่ปัจจุบันพืชกระท่อมเป็นยาเสพติด ให้โทษในประเภท 5 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 แต่ในหลายประเทศมิได้กำหนดให้ พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสากลและบริบทของสังคมไทยในบางพื้นที่ ที่มีการบริโภคพืชกระท่อม ตามวิถีชาวบ้าน สมควรยกเลิกพืชกระท่อมจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5
สรรพคุณทางยาและประโยชน์ในการรักษา (Therapeutic usefulness)
แพทย์แผนโบราณในประเทศไทย ใช้ใบกระท่อมปรุงเป็นยาเพื่อใช้ระงับอาการปวดท้อง แก้ บิด แก้ท้องเสีย ระงับอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย และระงับประสาท โดยหมอพื้นบ้านนำปลือกและ ใบมาปรุงเป็นยาหรือน้ำใบกระท่อมที่แกะก้านใบออกมาเคี้ยว และคายส่วนที่เป็นกากทิ้ง หลังจากนั้น ดื่มน้ำตาม เพื่อใช้เป็นยารักษาอาการท้องร่วง ปวดท้อง ลดอาการปวดบิด รักษาโรคกระเพาะ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคผิวหนัง เป็นต้น นอกจากนี้พืชกระท่อมยังเป็นองค์ประกอบ สำคัญในตำรายาคัมภีร์แพทย์ไทยแผนโบราณ
- ระงับอาการปวด เนื่องจาก ไมทราไจนีน และ 7hydroxymitragynine มีกลไกการออกฤทธิ์ในสมอง โดย Mitragynine มีความแรงน้อยกว่ามอร์ฟินประมาณ 10 เท่า
- ลดการซึมเศร้า (antidepressant) จากการกระตุ้นการผลิตสารสื่อประสาทชนิด serotonin
- บําบัดอาการถอนสุรา พบว่า สารสกัดอัลคาลอยด์จากใบกระท่อมบรรเทาอาการถอนเหล้าได้ผลดีพอ ๆกับฟลูอ็อกซีติน ปัจจุบันคณะกรรมการยาเสพติดให้โทษ สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา อนุมัติให้แพทย์แผนไทย ปลูกและใช้ใบกะท่อมในการรักษาโรคผู้ป่วยเฉพาะ
โอกาสของกระท่อมไทย สู่อุตสาหกรรมทางสุขภาพและความงาม
โอกาสสำคัญและความน่าสนใจของ กระท่อม ในฐานะพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ มีความน่าสนใจมาก จากการปลดล็อคออกจากพืชเสพติด และมีประวัติการใช้เป็นยาสมุนไพรโดยหมอพื้นบ้านนำส่วนเปลือกและใบพืชกระท่อม นิยมนำมาใช้รักษาโรคต่างๆ มาตั้งแต่อดีต
สาร Mitragynine ในใบกระท่อมและมีคุณสมบัติและสามารถนำมาเพื่อพัฒนาต่อยอด ใช้ในการบำรุง รักษาและป้องกันโรคต่างๆ แต่เพียงแค่ว่าสารนี้มีอยู่น้อยมากในกระท่อม ดังนั้นการต่อยอดการพัฒนางานวิจัยและสารสกัดจากธรรมชาติ โดยใช้เทคโนโลยีในการสกัด สารไมทราไจนีน (Mitragynine) เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ โดยไม่จัดเป็นสารเสพติด
ทั้งนี้สามารถนำสารสกัดจากกระท่อม มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมาย อาทิเช่น เครื่องดื่ม เสริมอาหาร ยาดม ยาบำรุงกำลัง หรือ อาหาร และยังมีโอกาสในการส่งออกสินค้าไปยังตลาดขนาดใหญ่
ตัวอย่างการรายงานผลการวิเคราะห์ Mitragynine ด้วยเทคนิค HPLC
จากรูป แสดงโครมาโตแกรมของ Mitragynine นำพื้นที่ใต้กราฟมาคำนวณหาปริมาณของ Mitragynine โดยเปรียบเทียบกับสารมาตรฐานได้
Literature:
- วุฒิเชษฐ รุ่งเรือง, ภ.บ., ว.ม. “พิษวิทยาของพืชกระท่อม ”ฝ่ายเภสัชกรรม โรงพยาบาลศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
- รศ.ดร.จุไรทิพย์ หวังสินทวีกุล “พืชกระท่อม (Kratom)”
- จุไรทิพย์ หวังสินทวีกุล. พืชกระท่อม [อินเทอร์เน็ต]. นนทบุรี: ศูนย์การศึกษาต่อเนื่องทางเภสัชศาสตร์ สภาเภสัชกรรม; สืบค้นจาก:
- “ข้อมูลวิชาการ พืชกระท่อม” โดย สถาบันบําบัดรักษาและฟนฟูผูติดยาเสพติดแหงชาติบรมราชชนน
- เอกสิทธิ์ กุมารสิทธิ์. พืชใบกระทอมช่วยลดอาการลงแดงจากสารเสพติด.
- ประเภทของวัตถุออกฤทธิ์ตอจิตและประสาท. สืบค้นจาก
- รศ.ดร. สุจิตรา ทองประดิษฐ์โชติ “ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา Mitragynine สารสำคัญในใบกระท่อม” สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล
- E. Mudge, P. Brown, 2017, Determination of Mitragynine in Mitragyna speciosa Raw Materials and Finished Products by Liquid Chromatography with UV Detection: Single-Laboratory Validation., Chemistry, Medicine, Journal of AOAC International.