ข้อมูลบริการทดสอบปริมาณสารฟลาโวนอยด์ทั้งหมด Total Flavonoid Content
บริษัท วิสไบโอ (VISBIO) จำกัด มีบริการรับทดสอบปริมาณสารฟลาโวนอยด์ทั้งหมด (Total Flavonoid Content) ได้กับตัวอย่างหลากหลายผลิตภัณฑ์ อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เป็นต้น ทั้งนี้เรารับบริการทดสอบปริมาณสารฟลาโวนอยด์ทั้งหมด (Flavonoid) กับวัตถุดิบสมุนไพร, ผัก หรือ ผลไม้ ได้อีกด้วย
ข้อมูลและที่มาของสารฟลาโวนอยด์
ฟลาโวนอยด์ พบได้ทั่วไปในอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพืช เช่น ผัก และ ผลไม้ ธัญพืช พืชตระกูลถั่ว เครื่องเทศ สมุนไพร ลำต้น กิ่งก้าน ดอก และเมล็ด รวมถึงเครื่องดื่มบางชนิด เช่น ชา โกโก้ เบียร์ และไวน์ เป็นต้น ในธรรมชาติพบฟลาโวนอยด์ มากกว่า 4,000 ชนิด ส่วนใหญ่อยู่ในรูปกลัยโคไซด์ (glycosides)
ฟลาโวนอยด์ เป็นสารเมตาบอไลต์ขั้นทุติยภูมิ (secondary metabolite) จากธรรมชาติในกลุ่มโพลีฟีนอล (polyphenolic compounds) ทำหน้าที่เป็นสารให้สีที่สำคัญในพืช ช่วยในการกรองรังสีอัลตราไวเลต และการช่วยตรึงไนโตรเจน
กลุ่มสารฟลาโวนอยด์ (Classification of Flavonoid)
สารประกอบฟลาโวนอยด์ พบได้ทั่วไปในผักและผลไม้ โครงสร้างพื้นฐานของสารประกอบฟลาโวนอยด์เป็นฟีนอลเบนโซไพโรน (phenyl benzopyrones) แสดงดังภาพ
ซึ่งกลุ่มสารประกอบฟลาโวนอยด์ แบ่งเป็น 7 กลุ่ม ดังนี้
- ฟลาโวนอล (flavonols) เช่น สารเคอร์ซิติน (quercetin) พบมาก แอปเปิล ชา หัวหอม ผักคะน้าและกะหล่ำปลี ช่วยปรับปรุงระบบหมุนเวียนโลหิต ต้านภาวะอักเสบ
- ฟลาโวน (flavones) เช่น สารลูติโอลิน (luteolin), สารอาพิจินิน (apigenin) พบทั่วไปในผักและผลไม้ เช่น หัวหอม แอปเปิล เป็นต้น สามารถต้านการแพร่ขยายของเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด
- ฟลาวาโนน (flavanones) เช่น สารเฮสเพอริติน (hesperetin), สารนารินจินิน (naringenin) และอีริโอดิคทิออล (eriodictyol)
- ฟลาวานอล (flavanols) เช่น สารแคทิชิน (catechin), สารแกลโลแคทิชิน (gallocatechin), สารอีพิแคทิชิน (epicatechin) พบในชาเขียว, สารอีพิแกลโลแคทิชิน (epigallocatechin), สารอีพิแคทิชิน -3-แกลเลต (epicatechin-3-gallate), สารอิพิแกลโลแคทิชิน-3-แกลเลต (epigallocatechin-3-gallate, EGCG)
- ฟลาวาโนนอล (flavanonols) เช่น สารแทกซิโฟลิน (taxifolin)
- ไอโซฟลาโวน (isoflavones) เช่น สารเดดซีน (daidzein), สารจีนิสตีน (genistein), สารไกลซิตีน (glycitein) และสารฟอร์โมโนเนติน (formononetin)
- แอนโธไซยานิดิน (anthocyanidins) เช่น สารไซยานิดิน (cyanidin), สารเดลฟินิดิน (delphinidin), สารมาลวิดิน (malvidin), สารพีลาร์โกนิดิน (pelargonidin), สารพีโอนิดิน (peonidin) และ สารพีทูนิดิน (petunidin)
ประโยชน์และการนำไปประยุกต์ใช้สารฟลาโวนอยด์
ด้านสุขภาพ
ฟลาโวนอยด์ มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ พบในเม็ดสีชนิดละลายในน้ำของผัก ผลไม้ เมล็ดธัญพืช ใบไม้ และเปลือกไม้ มีการศึกษา พบว่าฟลาโวนอยด์บางชนิด มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระเหนือกว่าวิตามินซีหรือวิตามินอีถึง 50 เท่า และฟลาโวนอยด์ในองุ่นแดงมีความสามารถในการยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมันแอลดีแอล (LDL-fat)
ด้านการใช้สีจากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ
ฟลาโวนอยด์เป็นแหล่งของสีย้อมธรรมชาติ ส่วนใหญ่ให้สีเหลือง สีส้ม หรือส้มแดง เช่น ลูทิโอลิน (Luteolin) จากพืชในตระกูล, Reseda luteola จะให้สีเหลือง, เควอซีทีน (Quercetin) จากเปลือกหอมหัวใหญ่ให้สีเหลืองเข้ม, มอริน (Morin) จากแก่นขนุนจะให้สีเหลืองเข้ม, คาร์ทามิน (Carthamin) จากดอกคำฝอยให้สีเหลืองปนน้ำตาล ซึ่งสีดังกล่าวสามารถนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องสำอางได้
ด้านการแพทย์
การศึกษาทางคลินิกสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ได้ถูกพัฒนา เป็นยารักษาโรคมะเร็งซึ่งมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญของเซลล์และชักนำการตายของเซลล์มะเร็ง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์ปกติและสามารถยับยั้งการพัฒนาและความรุนแรงของโรคมะเร็ง เช่น การอักเสบการสร้างหลอดเลือดใหม่
ด้านเครื่องสำอาง
การศึกษาพบว่าสารฟลาโวนอยด์บางชนิด เช่น rutin, catechin มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของกลุ่มเอนไซม์ matrix metalloproteinase (MMP) นอกจากนี้ยังพบว่า ฟลาโวนอยด์หลายชนิด เช่น catechin, quercetin, apigenin, hesperetin มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ จึงมีการนำสารฟลาโวนอยด์มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ช่วยลดริ้วรอย จุดด่างดำและขาวกระจ่างใส
วิธีการวิเคราะห์ทดสอบปริมาณสารฟลาโวนอยด์
- การหาปริมาณฟลาโวนอยด์เฉพาะกลุ่ม ทดสอบด้วย เทคนิค HPLC , UV-Visible Spectrophotometer และการตรวจวัดด้วยรังสีอุลตราไวโอเลต PDH (Photo-diode array) หรือ MS (Mass spectrometer) เนื่องจากสารประกอบฟลาโวนอยด์จากพืช มักอยู่ในรูปออร์โทไกลโคซิดิค (Oglycosidic) โดยจับกับน้ำตาล จะทำการวิเคราะห์เฉพาะส่วนอะไกลโคน ดังนั้น ต้องใช้กรดไฮโดรไลซ์ น้ำตาลออกไปจากโมเลกุล ซึ่งนิยมใช้กรดไฮโดรคลอริก ก่อนที่จะนำมาวิเคราะห์
- การวิเคราะห์ปริมาณสารฟลาโวนอยด์ทั้งหมด (Total Flavonoid Content, TFC) โดยวิธี Aluminum chloride colorimetric method เป็นวิธีการทดสอบโครงสร้างสารประกอบเชิงซ้อนของอะลูมิเนียมที่นิยมใช้มากที่สุด ในการหาปริมาณฟลาโวนอยด์ทั้งหมด โดยอาศัยปฏิกิริยาการเกิดสารประกอบเชิงซ้อนของอะลูมิเนียมฟลาโวนอยด์ (Aluminium – flavonoid complex)
หลักการของ Al – flavonoid complexation reaction คือ การทำปฏิกิริยากันระหว่างอะลูมิเนียมไอออนและกลุ่ม o – dihydroxyl (3′, 4′ – OH) ในวงแหวน B และ o – dihydroxy ในโมเลกุลของสารประกอบฟลาโวนอยด์ ซึ่งสามารถประสานกันช่วยเสริมให้จับกับอะลูมิเนียมไอออนได้ดียิ่งขึ้น
ตัวอย่างการรายงานผลการวิเคราะห์ปริมาณสารฟลาโวนอยด์ทั้งหมด
การรายงานผลการวิเคราะห์หาปริมาณสารฟลาโวนอยด์ของสารสกัดตะขบฝรั่ง (M.calabura) ส่วนราก, ลำต้นและใบ ซึ่งศึกษาการสกัดด้วยเฮกเซน (hexane), เอธิลอะซิเตต (EtOAc) และ เมธานอล (MeOH) ทำการทดสอบหาปริมาณฟลาโวนอยด์ทั้งหมด ในสารสกัดตะขบฝรั่งด้วยวิธี AlCl3 colorimetric assay เปรียบเทียบกับ สารมาตรฐาน เคอซิติน จากผลการทดสอบ พบว่า การสารสกัดด้วยเมธานอล (MeOH) ของใบตะขบฝรั่ง มีปริมาณฟลาโวนอยด์ทั้งหมดมากที่สุดดังแสดงในภาพ
Literature:
- สุนันทา ข้องสาย และ ลักษมี วิทยา, 2562, สารประกอบฟีนอลิก สารประกอบฟลาโวนอยด์ และฤทธิ์ต้านอนุมูล อิสระของสารสกัดจากเสม็ดขาวและเสม็ดแดง, คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย.
- ลือชัย บุตคุป, 2011, สารประกอบฟีโนลิกและฤทธิ์ทางชีวภาพ, J Sci Technol MSU, Vol 31, No 4, 444-455.
- อรรถพล พันธุ์งาม ,สุรพงศ์ รัตนะและ บรรลือ สังข์ทอง, ฤทธิ์ต้านอนุมลูอิสระ ปริมาณฟีนอลิก และฟลาโวนอยด์ในสารสกัดตะขบฝรั่ง, การประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ 13, 563-570.
- รัญชนา ชิตามระ, 2562, การหาปริมาณฟลาโวนอยด์และการทดสอบฤทธิ์ยบั ยงั้การท างานของเอนไซม์คอลลาจีเนส เอนไซม์อีลาสเตสและเอนไซม์ไทโรซิเนสของสารสกัดจากกลีบดอกและเกสรของบัวสายสีเหลือง, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.